Nagative SEO คืออะไร : ทำไมอเจนซี่ รับทำ SEO ควรระวังและวิธีป้องกัน

Negative SEO คืออะไร? มันเป็นเทคนิคการทำ SEO สายดำที่ใช้วิธีการทำ black hat SEO โดยการเพิ่ม link ไปยังเว็บไซต์ที่ต้องการที่จะทำให้อันดับตก และเพื่อให้คู่แข่งหรือเว็บไซต์คู่แข่งที่อยู่ในอันดับสูงกว่าลดลงในการค้นหาของ Search Engine โดยไม่คำนึงถึงกฎหมายและความเหมาะสม เพราะฉะนั้นการทำ Negative SEO สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การ hack เว็บไซต์ของคุณ หรือการสร้าง spam link เป็นพันๆ link ใส่เว็บไซต์ของคุณ

วิธีการทำงานของ Negative SEO นั้นเป็นการโจมตีเว็บไซต์ของคู่แข่งโดยการใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การส่ง spam link, การโจมตีด้วยความเสียหายทางไซเบอร์ หรือการปลอมข้อมูลเว็บไซต์ เป็นต้น ซึ่งเมื่อโจมตีสำเร็จแล้วจะทำให้เว็บไซต์ของคู่แข่งลดลงในการค้นหาของ Search Engine และอาจทำให้เว็บไซต์ของคู่แข่งหรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์นั้นๆ ได้รับความเสียหายอย่างมาก

การป้องกัน Negative SEO นั้นสามารถทำได้โดยการตรวจสอบและแก้ไข Negative SEO ที่เกิดขึ้นให้ได้เร็วที่สุด และโดยการเพิ่มความปลอดภัยของเว็บไซต์ เช่น การเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอ การติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส และการตรวจสอบ log ของเว็บไซต์เป็นต้น

Key Takeaways

  • Negative SEO เป็นเทคนิคการทำ SEO สายดำที่ใช้วิธีการทำ black hat SEO เพื่อทำให้อันดับตก
  • การโจมตีด้วย Negative SEO สามารถทำให้เว็บไซต์ของคู่แข่งหรือเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องได้รับความเสียหายอย่างมาก
  • การป้องกัน Negative SEO สามารถทำได้โดยการตรวจสอบและแก

Negative SEO คืออะไร

Negative SEO คือการใช้เทคนิค SEO ที่ไม่เหมาะสมและไม่ตรงตามกฎหมายเพื่อทำให้เว็บไซต์ของคูณลดลงในอันดับการค้นหาของ Search Engine เช่น Google หรือ Bing โดยวิธีการทำนี้อาจจะเป็นการส่งลิงก์จำนวนมากจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำ หรือเป็นการโจมตีเว็บไซต์ด้วยวิธีการอื่นๆ เช่น การโจมตีด้วยไวรัส การเข้าแฮกเว็บไซต์ หรือการเพิ่มเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและไม่ตรงตามกฎหมายลงในเว็บไซต์ของคูณ

การทำ Negative SEO ทำให้เว็บไซต์ของคูณลดลงในอันดับการค้นหาของ Search Engine และอาจจะถูกลบออกจากการค้นหาไปเลย ซึ่งส่งผลต่อการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณโดยตรง การเพิ่มโอกาสในการเสียชื่อเสียง และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งาน

นอกจากนี้ Negative SEO ยังสามารถทำให้เว็บไซต์ของคุณโดน Google Penalty ซึ่งเป็นการลดอันดับของเว็บไซต์ของคุณในการค้นหาของ Google โดย Google จะลบเว็บไซต์ของคุณออกจากการค้นหาหรือลดลงในอันดับการค้นหาของ Google ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจของคุณได้

ดังนั้น Negative SEO เป็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อการดูแลเว็บไซต์ของคุณ และควรต้องระวังการโจมตีด้วยวิธีการนี้อย่างมาก โดยควรใช้เทคนิค SEO ที่เหมาะสมและตรงตามกฎหมายเท่านั้น

วิธีการทำงานของ Negative SEO

Negative SEO คือการใช้วิธีการทำ SEO โดยไม่เหมาะสมและไม่ตรงตามกฎหมาย เพื่อทำให้เว็บไซต์ของคุณลดลงในอันดับการค้นหาของ Search Engine หรืออาจจะถูกลบออกจาก Search Engine ทั้งหมดไปเลยก็ได้

วิธีการโจมตีด้วย Negative SEO มีหลายวิธี เช่น การสร้างลิงก์ไม่เหมาะสมจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำ การสร้างลิงก์จำนวนมากจากเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้อง การสร้างโพสต์ที่ไม่เหมาะสมในสังคมออนไลน์ เป็นต้น

การสร้างลิงก์ไม่เหมาะสมจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำ คือการสร้างลิงก์จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำ หรือที่เรียกว่าเว็บไซต์สแปม โดยมักจะไม่มีความสัมพันธ์กัน หรือมีความสัมพันธ์น้อย โดยที่เว็บไซต์สแปมนั้นมักจะมีคุณภาพต่ำ ไม่ได้รับการอัพเดท หรือมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์ของคุณลดลงในอันดับการค้นหาของ Search Engine

การสร้างลิงก์จำนวนมากจากเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้อง คือการสร้างลิงก์จากเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์ของคุณ โดยมักจะเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม หรือที่เรียกว่าเว็บไซต์สแปม ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์ของคุณลดลงในอันดับการค้นหาของ Search Engine

การสร้างโพสต์ที่ไม่เหมาะสมในสังคมออนไลน์ คือการสร้างโพสต์หรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในสังคมออนไลน์ เช่น การโพสต์เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในสังคมออนไลน์ หรือการโพสต์เนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในสัง

ประโยชน์ของ Negative SEO

Negative SEO ไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อผู้ใช้เว็บไซต์ แต่ก็ยังมีประโยชน์บางอย่างที่อาจจะทำให้เห็นผลเช่นกัน

ลดคู่แข่ง

การใช้ Negative SEO อาจช่วยให้เว็บไซต์ของคุณตกอันดับ หรือหายไปจากหน้าผลการค้นหา แต่ในเวลาเดียวกันก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการติดอันดับสูงขึ้นของคู่แข่ง โดยการทำให้เว็บไซต์ของคู่แข่งตกอันดับหรือถูกลบออกจากการค้นหา

การป้องกัน

การทำ Negative SEO อาจเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่า แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่จำเป็นเพื่อป้องกันการโจมตีจากคู่แข่ง หากเว็บไซต์ของคุณมีการรับรู้และตรวจสอบการโจมตีด้วยเทคนิค Negative SEO อย่างทันท่วงที ก็จะช่วยป้องกันการเสียหายจากการโจมตีนั้นได้

การเร่งความเร็วในการตอบสนอง

การโจมตีด้วยเทคนิค Negative SEO อาจเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก และอาจจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและแก้ไข แต่การตรวจสอบและแก้ไขโดยทันที จะช่วยเพิ่มความเร็วในการตอบสนองและป้องกันการเสียหายจากการโจมตีด้วยเทคนิค Negative SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สร้างความตื่นเต้น

การโจมตีด้วยเทคนิค Negative SEO อาจเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้ใช้เว็บไซต์รู้สึกตื่นเต้น และเริ่มคิดว่าว่าจะต้องทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการโจมตีนั้น ซึ่งอาจเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น

ความเสี่ยงและปัญหาที่เกิดจาก Negative SEO

Negative SEO คือการโจมตีเว็บไซต์ของคู่แข่งโดยใช้วิธีการทาง SEO ที่ไม่สู้จะถูกต้อง เพื่อทำให้เว็บไซต์ของคู่แข่งตกอยู่ในอันดับที่ต่ำลงในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา เช่น Google โดยทั่วไปแล้ว Negative SEO จะเป็นการโจมตีโดยการสร้างลิงก์หรือการส่งคำขอลิงก์จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำ หรือการโจมตีด้วยคำสำคัญที่ไม่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์นั้น ๆ และอาจใช้เทคนิคอื่น ๆ ที่ไม่สมควรเพื่อทำให้เว็บไซต์ของคู่แข่งตกอยู่ในอันดับที่ต่ำลงในผลการค้นหา

การโจมตีด้วย Negative SEO สามารถทำให้เว็บไซต์ของคุณตกอยู่ในอันดับที่ต่ำลงในผลการค้นหา ทำให้ลูกค้าหรือผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณลดลง ซึ่งส่งผลต่อรายได้และความสำเร็จของธุรกิจของคุณ นอกจากนี้ การโจมตีด้วย Negative SEO ยังสามารถทำให้เว็บไซต์ของคุณโดน Google Penalty ได้ และอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกลบออกจากดัชนีของเครื่องมือค้นหาโดยสิ้นเชิง

นอกจากนี้ Negative SEO ยังสามารถเป็นอันตรายต่อธุรกิจหรือเว็บไซต์อื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน โดยการโจมตีด้วย Negative SEO อาจเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือการโจมตีเว็บไซต์ด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายทางกฎหมายและความเสียหายต่อธุรกิจได้

ดังนั้น เพื่อป้องกันการโจมตีด้วย Negative SEO คุณควรตรวจสอบเว็บไซต์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ เ

วิธีป้องกัน Negative SEO

การป้องกัน Negative SEO ทำได้โดยการตรวจสอบเว็บไซต์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการโจมตีด้วย Negative SEO ที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกๆ วัน โดยเฉพาะเวลาที่เว็บไซต์ของคุณได้รับการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงอะไรบนเว็บไซต์ เช่น การเปลี่ยนชื่อโดเมน การเปลี่ยนโครงสร้างของเว็บไซต์ การเพิ่มหรือลบหน้าเว็บไซต์ การเปลี่ยนแปลงเนื้อหา และอื่นๆ

นอกจากนี้ ยังสามารถป้องกัน Negative SEO ได้โดยการติดตั้งโปรแกรมป้องกันการโจมตีด้วย Negative SEO บนเว็บไซต์ของคุณ โดยโปรแกรมเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบลิงก์ที่เข้ามายังเว็บไซต์ของคุณได้ และทำการลบลิงก์ที่ไม่เหมาะสมออกจากเว็บไซต์ของคุณได้

นอกจากนี้ ยังมีวิธีการอื่นๆ ที่สามารถช่วยป้องกัน Negative SEO ได้อีก เช่น การเพิ่มความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ของคุณ โดยการใช้ HTTPS และการใช้ระบบการรับรอง SSL การเพิ่มความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์ของคุณจะช่วยป้องกันการโจมตีด้วย Negative SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ Google Search Console เพื่อตรวจสอบลิงก์ที่เข้ามายังเว็บไซต์ของคุณได้ โดย Google Search Console จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับลิงก์ที่เข้ามายังเว็บไซต์ของคุณ และสามารถทำการลบลิงก์ที่ไม่เหมาะสมออกจากเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายๆ

ดังนั้น การป้องกัน Negative SEO เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์ของตน โดยควรทำการต

การตรวจสอบและแก้ไข Negative SEO

การตรวจสอบและแก้ไข Negative SEO เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาความเป็นมืออาชีพของเว็บไซต์ของตนเอง การโจมตีด้วย Negative SEO มีความหลากหลายและอาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้รับการแจ้งเตือน ดังนั้น ควรตรวจสอบเว็บไซต์ของคุณอย่างสม่ำเสมอเพื่อตระหนักถึงการโจมตีด้วย Negative SEO และเริ่มการแก้ไขได้ทันที

การตรวจสอบเว็บไซต์ของคุณสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Google Search Console หรือ SEMrush ซึ่งจะช่วยให้คุณตรวจสอบว่ามีการโจมตีด้วย Negative SEO หรือไม่ และระบุปัญหาที่เกี่ยวข้อง หากพบปัญหา คุณควรรีบแก้ไขเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเว็บไซต์ของคุณ

การรับรู้ว่าคุณถูกโจมตีด้วย Negative SEO อาจไม่เป็นเรื่องง่ายเนื่องจากมีหลายปัจจัยที่อาจส่งผลให้คุณรับรู้ได้ยาก แต่มีบางสัญญาณและเครื่องมือที่คุณสามารถใช้เพื่อตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณอาจได้รับผลกระทบจาก Negative SEO

  1. การลดอัตราการคลิก (Click-Through Rate, CTR): ถ้าคุณรับรู้ว่าอัตราการคลิกจากผลการค้นหาหรือรายการค้นหาของคุณลดลงอย่างมากๆ โดยไม่มีเหตุผลที่ชัดเจน เช่น ถ้าคุณมีอันดับที่ดีในผลการค้นหาแต่ CTR ลดลงอย่างไม่สมควร อาจเป็นสัญญาณของการโจมตี Negative SEO.
  2. การสูญเสียอันดับ (Ranking Drop): หากคุณเคยมีอันดับที่ดีในผลการค้นหาแต่เริ่มเห็นว่าอันดับของคุณลดลงอย่างรวดเร็ว หรือมีการระบุแจ้งเตือนจากเครื่องมือค้นหาเช่น Google Search Console ว่าคุณมีปัญหาเกี่ยวกับลิงก์หรือเนื้อหา อาจเกิดจากการโจมตี Negative SEO.
  3. การรับ Backlink ไม่สุจริต: การมีการรับลิงก์จากเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของคุณหรือเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำ อาจเป็นสัญญาณของการโจมตี Negative SEO.
  4. การแจ้งเตือนจากเครื่องมือค้นหา: หากคุณได้รับแจ้งเตือนจากเครื่องมือค้นหาเช่น Google Search Console เกี่ยวกับการละเมิดคำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับ SEO หรือการมีลิงก์ที่ไม่สุจริต อาจเป็นสัญญาณของ Negative SEO.
  5. การตรวจสอบ Backlink: คุณสามารถใช้เครื่องมือตรวจสอบลิงก์ (Backlink analysis tools) เพื่อตรวจสอบว่ามีลิงก์ที่ไม่สุจริตหรือไม่เหมาะสมมายศกับเว็บไซต์ของคุณหรือไม่
  6. ความผิดปกติในการเข้าถึงเว็บไซต์:
    หากคุณพบว่ามีการลดลงของการเข้าถึงเว็บไซต์หรือปัญหาในการโหลดหน้าเว็บ อาจมีการโจมตีแบบจำลอง (DDoS attack) หรือการกระทำที่ไม่สุจริตเกิดขึ้นกับเว็บไซต์ของคุณ.
google-discover-traffic
ขอบคุณภาพจาก https://www.semrush.com/

หากคุณเชื่อว่าคุณถูกโจมตีด้วย Negative SEO ควรดำเนินการตรวจสอบและรับมือตามข้อมูลที่มีอยู่ในเครื่องมือค้นหา เช่น Google Search Console และติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO เพื่อขอคำแนะนำและช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว.

การแก้ไข Negative SEO มีหลายวิธี แต่การทำให้เว็บไซต์ของคุณปลอดภัยจากการโจมตีด้วย Negative SEO ต้องเน้นไปที่การป้องกัน โดยคุณสามารถป้องกันการโจมตีด้วย Negative SEO โดยการ:

  • ตรวจสอบการโพสต์ของบุคคลที่สามที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของคุณและตรวจสอบคุณภาพของเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของคุณ
  • ตรวจสอบการโพสต์บนโซเชียลมีเดียที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของคุณและตรวจสอบคุณภาพของเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ของคุณ
  • ตรวจสอบคุณภาพของเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณและตรวจสอบความสมดุลของคำสำคัญที่ใช้ในการทำ SEO
  • ตรวจสอบการเชื่อมโยงภายในของเว็บไซต์ของคุณ
backlink fake
ขอบคุณภาพจาก https://www.semrush.com/

วิธีแก้ไข  NEGATIVE SEO

ใช้ Disavow Links Tool

เครื่องมือ Disavow Links ของ Google ช่วยให้คุณสามารถแจ้ง Google ถึงลิงก์ที่คุณไม่ต้องการให้คำนับเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินคุณภาพของเว็บไซต์ของคุณ เครื่องมือนี้จะช่วยลดผลกระทบจากลิงก์ที่ไม่สุจริตหรือลิงก์ที่คุณไม่สนใจที่มีต่อการจัดอันดับในผลการค้นหาของ Google ซึ่งอาจช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณคงความสูงและเชื่อถือได้ในแผนผังการค้นหาของ Google

ด้านล่างนี้เป็นขั้นตอนการใช้งานเครื่องมือ Disavow Links ของ Google:

  1. เข้าสู่ Google Search Console: เข้าสู่ Google Search Console (https://search.google.com/search-console/) ด้วยบัญชี Google ที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของคุณ.
  2. เลือกเว็บไซต์: หากคุณมีหลายเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับบัญชี Search Console ของคุณ ให้เลือกเว็บไซต์ที่ต้องการใช้งานเครื่องมือ Disavow Links.
  3. ไปยัง Disavow Links Tool: ในเมนูซ้ายมือ คลิกที่ “การเชื่อมโยง” แล้วเลือก “ลิงก์ที่ปฏิเสธ.”
  4. อัพโหลดไฟล์ Disavow: คลิกที่ปุ่ม “ปฏิเสธลิงก์” แล้วคลิกที่ปุ่ม “เลือกไฟล์” เพื่ออัพโหลดไฟล์ที่ประกอบด้วยลิงก์ที่คุณต้องการปฏิเสธ ไฟล์ต้องเป็นรูปแบบ .txt และมีรูปแบบการจัดรูปแบบที่ถูกต้อง รูปแบบที่ถูกต้องคือ
Disavow Links Tool
Disavow Links Tool

บันทึกการเปลี่ยนแปลง: หลังจากอัพโหลดไฟล์ Disavow เสร็จ คลิกที่ปุ่ม “ส่งการปฏิเสธ” เพื่อยืนยันการแจ้ง Google ถึงลิงก์ที่คุณไม่ต้องการให้คำนับเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินคุณภาพของเว็บไซต์ของคุณ.

โปรดทราบว่า

  • การใช้งานเครื่องมือ Disavow Links ควรใช้ระมัดระวังและถูกต้อง เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์ของคุณได้ถ้าทำผิดพลาด.
  • ไม่ควรใช้เครื่องมือนี้โดยสบายใจ เพียงแต่เพื่อเอาใจใส่ที่ลิงก์ที่ไม่สุจริต หรือไม่เกี่ยวข้องกับคุณภาพของเว็บไซต์ของคุณ.
  • การปฏิเสธลิงก์ไม่จะทำให้ลิงก์เหล่านั้นหายไปจากเว็บ แต่จะบอก Google ว่าคุณไม่ต้องการให้คำนับลิงก์เหล่านั้นในการประเมินคุณภาพของเว็บไซต์ของคุณ.

หากคุณไม่แน่ใจหรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องมือ Disavow Links คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO หรือเพิ่มคำถามเพิ่มเติมเพื่อขอความช่วยเหลือ.

สรุป

Negative SEO คือ การใช้เทคนิคการทำ black hat SEO เพื่อทำให้เว็บไซต์ของคูณลดลงในอันดับการค้นหาของ Search Engine โดยไม่เหมาะสมและไม่ตรงตามกฎหมาย ซึ่งการทำ negative SEO สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การโพสต์ spam link ให้กับเว็บไซต์ของคูณ หรือการ hack เว็บไซต์ของคูณเพื่อเพิ่ม link อื่น ๆ เข้าไปในเว็บไซต์ของคูณ ซึ่งทั้งหมดนี้จะทำให้เว็บไซต์ของคูณลดลงในอันดับการค้นหาของ Search Engine และเสียโอกาสในการได้รับ traffic จากการค้นหา

การทำ negative SEO สามารถทำได้โดยใช้เทคนิคการทำ SEO สายดำแบบสมัยก่อน ซึ่งไม่ได้เหมาะสมและไม่ตรงตามกฎหมาย แต่การทำ negative SEO นั้นไม่ได้ทำให้เว็บไซต์ของคูณลดลงในอันดับการค้นหาของ Search Engine เท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้เว็บไซต์ของคูณเสียโอกาสในการได้รับ traffic จากการค้นหาด้วย

การทำ negative SEO นั้นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมและไม่ตรงตามกฎหมาย และอาจทำให้เว็บไซต์ของคูณได้รับโทษจาก Search Engine ด้วย ดังนั้น ควรเลือกใช้เทคนิคการทำ SEO ให้เหมาะสมและตรงตามกฎหมายเสมอ และควรป้องกันเว็บไซต์ของคูณจากการโจมตีด้วย negative SEO โดยการตรวจสอบ link และ backlink ของเว็บไซต์ของคูณเป็นประจำ และตรวจสอบอัตราการเปิดเว็บไซต์ของคูณเป็นประจำเพื่อตรวจสอบว่ามีการโจมตีด้วย negative SEO หรือไม่

Frequently Asked Questions

การทำ Negative SEO มีผลเสียต่อเว็บไซต์อย่างไร?

การทำ Negative SEO สามารถทำให้เว็บไซต์ของคุณได้รับผลเสียอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการใช้เทคนิคการโจมตีอย่างรุนแรง เช่น การโจมตีด้วย backlinks ที่ไม่ดี โดยเพิ่มลิ้งค์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหรือลิ้งค์จากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพต่ำ นอกจากนี้ การโจมตีด้วยวิธีอื่น ๆ อาจทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกแบนจาก Search Engine ได้

วิธีป้องกันการโดน Negative SEO เป็นอย่างไร?

วิธีป้องกันการโดน Negative SEO คือการตรวจสอบ backlinks ของเว็บไซต์ของคุณอย่างสม่ำเสมอและการเก็บรักษาความปลอดภัยของเว็บไซต์ นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ Google Search Console เพื่อตรวจสอบการโจมตีและรายงานปัญหากับ Google ได้

Negative SEO สามารถทำให้เว็บไซต์ตกอันดับได้หรือไม่?

ใช่ การทำ Negative SEO สามารถทำให้เว็บไซต์ตกอันดับได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าการโจมตีเป็นรุนแรง

การตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของฉันได้รับ Negative SEO หรือไม่?

คุณสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Google Search Console หรือ Ahrefs เพื่อตรวจสอบ backlinks และรายงานปัญหากับ Google เพื่อตรวจสอบการโจมตีและการกระทำ Negative SEO อื่น ๆ กับเว็บไซต์ของคุณได้

Negative SEO เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่?

การกระทำ Negative SEO อาจเป็นการละเมิดกฎหมายของบางประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีการโจมตีด้วยวิธีที่ผิดกฎหมาย เช่น การโจมตีด้วยวิธีการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือการโจมตีด้วยวิธีการเข้ารหัสข้อมูล

วิธีการทำ NEGATIVE SEO 2023 – 2024

  1. การแพร่ข่าวที่ไม่ดี: ใช้เทคนิคของการสร้าง spam link จำนวนมากเพื่อเพิ่มอัตราความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของคุณ เช่น โพสต์ลิงก์ที่ไม่สุจริตบนเว็บบอร์ดหรือโปรแกรม.
  2. การสร้างลิงก์ที่ไม่เหมาะสม: วิธีที่ผู้โจมตีสร้างลิงก์โดยชี้ไปยังเว็บไซต์ของคุณด้วยคำค้นที่ไม่เหมาะสม เพื่อลดคุณภาพและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ของคุณ.
  3. การคัดลอกเนื้อหา: วิธีการคัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์ของคุณและนำมาใส่ในเว็บไซต์อื่นๆ เช่น PBN (Private Blog Network) เพื่อเพิ่มการค้นหาและการจัดอันดับ.
  4. การถูก Hack: วิธีที่ผู้โจมตีอาจโจมตีเว็บไซต์ของคุณด้วยวิธีการ Hack เช่น การปรับเปลี่ยน Plugin ที่อัพเดตเพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณ.

Negative SEO สามารถแก้ไขได้หรือไม่?

Negative SEO เป็นการใช้เทคนิคการทำ black hat SEO สายดำแบบสมัยก่อนโดยการเพิ่ม link ไปยังเว็บไซต์ที่ต้องการที่จะทำให้อันดับตก ซึ่งการทำ negative SEO สามารถแก้ไขได้ แต่ต้องใช้เวลาและความพยายามในการทำ โดยต้องตรวจสอบและลบ link ที่ไม่เหมาะสมออกจากเว็บไซต์ของตนเอง และต้องใช้เทคนิคการทำ SEO ให้ดีขึ้นเพื่อให้เว็บไซต์ของตนเองได้อันดับที่ดีกว่าคู่แข่ง

อย่างไรก็ตาม หากการทำ negative SEO มีผลกระทบต่อเว็บไซต์ของคุณอย่างมาก อาจจะต้องใช้บริการของผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยแก้ไขปัญหา และเพื่อป้องกันการเกิดอีกในอนาคต ดังนั้น การป้องกัน negative SEO โดยการตรวจสอบและลบ link ที่ไม่เหมาะสมออกจากเว็บไซต์ของตนเอง เป็นสิ่งที่ควรทำเสมอ และต้องเร่งรีบดำเนินการเมื่อพบปัญหา

หากคุณกำลังต้องการหาคน รับทำ SEO แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร คุณสามารถปรึกษาได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แนะนำให้ติดต่อเราเพื่อขอคำปรึกษาและแผนการดำเนินงานที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ ทีมงานของเรามีความเชี่ยวชาญในการดำเนินงาน SEO และจะเป็นอย่างยินดีที่จะช่วยเสริมสร้างออนไลน์ของธุรกิจคุณให้เติบโตและประสบความสำเร็จครับ

อ้างอิงจาก : https://www.semrush.com/

Arthit Eampa