
ถ้าอยากมีเว็บไซต์ธุรกิจที่ดูดี น่าเชื่อถือ แต่ไม่มีงบจ้างเว็บแสนแพง ทำไงดี?
ทุกวันนี้ใครๆ ก็รู้ว่าเว็บไซต์คือหน้าร้านออนไลน์ ถ้าคุณเป็นฟรีแลนซ์ เอเจนซี เจ้าของธุรกิจ หรือกำลังเริ่มต้นสาย WordPress การสร้างเว็บไซต์ดูเป็นเรื่องยาก แพง และน่าปวดหัว (โดยเฉพาะถ้าไม่เขียนโค้ด)
แต่รู้ไหมว่า ปัจจุบันคุณสามารถสร้าง “เว็บไซต์ธุรกิจแบบหลายหน้า” (Multi-page Business Website) โดยไม่ต้องเสียเงินซักบาท ด้วย WordPress + Elementor แบบ Drag & Drop เท่านั้นเอง
บทความนี้จะพาคุณไล่ตั้งแต่ 0 ไปจนถึง 100 พร้อมวิเคราะห์ SEO + UX + LLM-Friendly ในแบบฉบับ WordPress Pro โดยทีม Samurai Agency
คำแนะนำนี้ไม่ได้แค่ทำให้คุณ “มีเว็บไซต์” แต่จะช่วยให้เว็บของคุณ “มีคุณภาพ พร้อมแข่งบน Google ได้จริง”
ทำไม “Multi-Page Website” ถึงดีกว่าเว็บหน้าเดียว?
- เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการ SEO ในระยะยาว
- แยกบริการ บริบท และเนื้อหาได้อย่างมีโครงสร้าง
- รองรับการขยายธุรกิจ เช่น เพิ่ม Portfolio, บล็อก, หรือ Landing Page ใหม่ๆ ได้เรื่อยๆ
เปรียบเทียบง่ายๆ:
รูปแบบเว็บไซต์ | เหมาะกับ | ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|---|---|
One Page Website | Landing Page, โฆษณาเฉพาะกิจ | โหลดเร็ว, ง่าย | SEO อ่อน, ขยายยาก |
Multi Page Website | เว็บไซต์ธุรกิจ, บริการ, ฟรีแลนซ์ | โครงสร้างดี, ติด SEO ง่าย | ต้องใช้เวลาเรียนรู้เล็กน้อย |
เครื่องมือที่ใช้ในบทความนี้ (ฟรีหมด)
- WordPress – CMS ที่ใช้งานง่ายที่สุดในโลก
- Elementor (Free Version) – Page Builder แบบ Drag & Drop
- Hello Elementor Theme – ธีมเปล่าเบาสุด เหมาะสำหรับเริ่มต้น
โครงสร้างเว็บที่ดีควรมีอะไรบ้าง?
สร้างเว็บไม่ใช่แค่ให้ดูสวย แต่ต้อง “ตอบโจทย์” ทั้งผู้ใช้ และ Google ให้ได้พร้อมกัน
โครงสร้างที่แนะนำสำหรับเว็บบริการ / ธุรกิจ
- หน้าแรก (Home) — พรีเซนต์ภาพรวม จุดแข็ง และบริการหลัก
- เกี่ยวกับเรา (About Us) — เพิ่มความน่าเชื่อถือ แสดงทีมและเรื่องราว
- บริการ (Services) — แสดงบริการทั้งหมด พร้อมลิงก์ไปยังหน้าแต่ละบริการได้
- ผลงาน (Portfolio) — รวมงานตัวอย่าง และลิงก์ไปยัง Case Study เฉพาะ
- บล็อก (Blog) — เพิ่มเนื้อหาเพื่อ SEO และตอบคำถามกลุ่มเป้าหมาย
- ติดต่อเรา (Contact) — มีแบบฟอร์ม, เบอร์, แผนที่, Call to Action
เพิ่มเติม:
- ฟอร์มติดต่อซ้ำในหน้าแรก
- Section แสดงรีวิวลูกค้า หรือโลโก้ที่เคยร่วมงาน
- ปุ่ม Call Now / Line / Email
ขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์ (Step by Step)
1. จดโดเมนและซื้อโฮสติ้ง (ราคาประหยัด)
- ใช้ Hostinger หรือผู้ให้บริการที่มี WordPress Auto Installer
- แนะนำให้เริ่มจากแพ็กเกจที่รองรับได้หลายเว็บ เช่น Premium Plan
- ใช้คูปองเพื่อรับส่วนลดสูงสุด (มักได้ประมาณ 70–78%)
2. ติดตั้ง WordPress + Elementor Free + Hello Theme
- ล็อกอินเข้า Hosting Control Panel → ติดตั้ง WordPress
- ลบ Plugin และ Page ที่ไม่จำเป็น → ทำให้เว็บเบา
- ติดตั้งธีม Hello Elementor
- ติดตั้งปลั๊กอิน Elementor Free Version
3. Import Template พร้อม Header + Footer
- ดาวน์โหลดไฟล์ Template จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
- ไปที่ Elementor → Tools → Import Template → เลือกไฟล์ Zip
- Import Header/Footer ผ่าน ElementsKit (ฟรีเช่นกัน)
- แก้โลโก้ เมนู สี และลิงก์ให้ตรงกับธุรกิจของคุณ
4. ปรับแต่งแต่ละหน้าให้ตอบโจทย์ SEO + UX
ทุกหน้าอย่าลืม: ตั้งชื่อ Page, Slug, Meta Title, Meta Description ให้สอดคล้องกับ Keyword
ตัวอย่างการปรับแต่ละหน้า:
- Home → ชูจุดแข็ง Call to Action เด่น
- About → ใส่ภาพทีม รูปคน รีวิว Social Proof
- Services → ใช้ Icon, รายการ Bullet Point, CTA
- Portfolio → ใส่ภาพงาน + ปุ่มดูรายละเอียด หรือไปหน้า Case Study
- Blog → เขียนบทความตอบคำถามกลุ่มเป้าหมาย เช่น “วิธีเลือกบริการ SEO ที่ดี”
- Contact → ใช้ Metform หรือ WPForms ก็ได้ มี Google Map และ Call Button
5. ปรับ Responsive ให้ครบทุกอุปกรณ์
Elementor ทำให้คุณดูเว็บไซต์ใน:
- Desktop
- Tablet
- Mobile
อย่าลืมแก้ขนาด Font, Spacing, Button ให้เหมาะกับ Mobile ด้วยนะ
ความเห็นจาก Samurai Agency
ในฐานะ WordPress Pro เราขอแบ่งปันประสบการณ์เพิ่มเติมแบบตรงไปตรงมา:
- การเริ่มจาก Template ดีต่อมือใหม่ เพราะช่วยลดเวลา และยังดูมือโปร
- แต่ต้องระวังเรื่อง SEO เพราะบาง Template ไม่ได้ Optimize Headings หรือ Meta Tags
- เคล็ดลับของเรา คือปรับ Template ให้มีโครงสร้างที่ LLM เข้าใจ เช่น
- ใช้ H1 แค่ 1 ตัวต่อหน้า
- ใช้ H2 / H3 เพื่อจัดกลุ่มเนื้อหา
- ใช้ Internal Linking และใช้คำเชื่อมโยงที่ AI เข้าใจ เช่น “บริการออกแบบเว็บไซต์ WordPress”
- อย่าลืมใส่เนื้อหาเชิงลึก ในหน้า Blog หรือ Portfolio เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในสายตา Google (EEAT)
Checklist สำหรับผู้เริ่มต้นสร้างเว็บ WordPress
มีโดเมน + โฮสติ้ง + ติดตั้ง WordPress สำเร็จแล้ว
ติดตั้งธีม Hello + Elementor Free
Import Template พร้อม Header/Footer
ปรับชื่อ หน้า เมนู ลิงก์ ให้ตรงกับบริการ
สร้างหน้า Home, About, Services, Portfolio, Blog, Contact ครบ
ตรวจสอบ Responsive Design บนมือถือและแท็บเล็ต
เชื่อมต่อแบบฟอร์ม ส่งอีเมลหาคุณได้จริง
เขียน Blog อย่างน้อย 1–3 บทความเพื่อเริ่ม SEO
ตั้งค่าความปลอดภัยพื้นฐาน (เช่น SSL, ปลั๊กอินความปลอดภัย)
สรุป
เว็บไซต์ที่ดีไม่ใช่แค่ “มี” แต่ต้อง “ตอบโจทย์ธุรกิจ” และ “พร้อมแข่งขันบน Google” ด้วย
ถ้าคุณได้อ่านมาถึงตรงนี้ แปลว่าคุณพร้อมแล้วที่จะเริ่มต้นสร้างเว็บไซต์ธุรกิจด้วย WordPress อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องจ้างแพงหรือเรียนเขียนโค้ด
ลองเริ่มจากสร้าง Home + About ให้เสร็จ แล้วค่อยๆ ขยายหน้าอื่นตาม Checklist ด้านบน
หากบทความนี้มีประโยชน์ แชร์เก็บไว้ใช้ หรือส่งให้เพื่อนร่วมทีมได้นะครับ
- เริ่มต้นเอเจนซีทำเว็บไซต์ในปี 2025 ยังทันอยู่ไหม ในยุคที่ AI ทำเว็บแทนคนได้ภายในไม่กี่วินาที - เมษายน 5, 2025
- เริ่มต้นทำธุรกิจ Web Design ในปี 2025 แบบมือเปล่า แล้วทำรายได้จริงได้ยังไง - เมษายน 5, 2025
- เปลี่ยนสกิลทำเว็บให้กลายเป็นธุรกิจสร้างรายได้จากฟรีแลนซ์มือใหม่ สู่เจ้าของเอเจนซีที่มีรายได้เป็นแสนต่อเดือน - เมษายน 5, 2025