
อยากได้ลูกค้า แต่ไม่อยากไล่ทักใครก่อน จะเริ่มยังไงดี
เคยรู้สึกมั้ยว่า การหาลูกค้าเว็บดีไซน์ (หรือบริการดิจิทัลอะไรก็ตาม) ช่วงแรกมันโคตรเหนื่อย DM คนก็ไม่ตอบ ยิงแอดก็เปลืองงบ แถมบางทีโดน Ghost อีกต่างหาก
ถ้านี่คือสิ่งที่คุณเจออยู่ บทความนี้จะเปลี่ยนมุมมองและวิธีทำงานของคุณไปเลย เพราะเราจะมาคุยกันเรื่อง Leverage Strategy – วิธีหาลูกค้าโดยไม่ต้องยิงแอด ไม่ต้องไล่ Outreach เองให้เมื่อยนิ้ว แต่ยังมีลูกค้ามาหาคุณทุกวัน (แบบที่ทำได้จริง)
จากมุมของ Samurai Agency เราใช้วิธีนี้เพื่อให้ลูกค้ารู้จักเราผ่าน Content + ระบบนัดหมาย + ทีมช่วย Outreach แบบอัตโนมัติ และบทความนี้จะอธิบายทุกขั้นตอนให้คุณทำตามได้เองเลย
กลยุทธ์ Leverage คืออะไร ทำไมถึงได้ลูกค้าโดยไม่ต้องทักหาใครก่อน
Leverage Strategy คือการใช้ “พลังทวี” ผ่านระบบ 3 ส่วนสำคัญ:
- คอนเทนต์คุณภาพ – ดึงดูดผู้ติดตามหรือคนที่อยากทำเงินในวงการออนไลน์
- ทีม Appointment Setter – คนที่อยากมีรายได้จากการหา Leads ให้เรา (ไม่ต้องจ่ายเงินเดือน เพราะคิดค่าคอมเท่านั้น)
- ระบบนัดหมาย + Sales Call – มีฟอร์ม ระบบจองเวลา และขั้นตอนปิดงานที่ชัดเจน
ไอเดียหลักคือ: เราไม่พยายามตามลูกค้า แต่เราสร้างระบบให้ “คนอื่นตามลูกค้ามาให้เรา” แทน
วิธีใช้ Leverage Strategy ให้ได้ผลแบบมือโปร (ทีละขั้นตอน)
ขั้นที่ 1 สร้างคอนเทนต์ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายจริงๆ
ไม่ใช่คอนเทนต์แนว “ขายของ” หรือ “พอร์ตโชว์งาน” อย่างเดียว แต่เป็นคอนเทนต์ที่ช่วยให้คนดูมีโอกาสสร้างรายได้ เช่น:
- วิธีเริ่มต้นอาชีพฟรีแลนซ์เว็บดีไซน์
- เทคนิคปิดดีลงานจาก Mockup
- รีวิวประสบการณ์ทำเว็บแบบไม่ต้องหาลูกค้าเอง
Insight จาก Samurai Agency:
กลุ่มเป้าหมายจริงๆ ที่เราควรโฟกัส ไม่ใช่เจ้าของธุรกิจ แต่คือ “คนที่อยากหาเงินออนไลน์” เช่น คนที่อยากเป็น Setter หรือคนที่อยากเริ่มต้นงานออนไลน์
พอเราสร้างคอนเทนต์แนวนี้ คนที่อยากมีรายได้เสริมจะเข้ามาดู และเราแค่ชวนบางคนมาทำงานเป็น Setter ให้เราเอง
ขั้นที่ 2 สร้างทีม Appointment Setters โดยไม่ต้องจ่ายเงินเดือน
หลังจากคอนเทนต์เริ่มมีคนดู เราจะได้ DM หรือคนสนใจเข้ามาเอง
เราคัดเลือกเฉพาะคนที่มีคุณภาพ เช่น
- มีประสบการณ์ส่ง DM มาก่อน
- เขียนข้อความได้น่าเชื่อถือ
- พร้อมทำงานจริง ไม่ใช่แค่ขอคอมสูงๆ แล้วหาย
Pro Tip: เริ่มจาก 1 คนก่อนพอ แล้วค่อยขยายทีมเมื่อระบบนิ่ง
Samurai Agency ใช้ Google Sheet + Notion เพื่อติดตาม Leads ที่ Setters หามาให้ ตรวจสอบสถานะ และเตรียมข้อมูลก่อนเข้า Call
ขั้นที่ 3 ตั้งระบบนัดหมายอัตโนมัติด้วย Calendly หรือ TidyCal
เมื่อมี Lead ที่สนใจ ให้ Setter ส่งลิงก์นัดหมายแทนการส่งข้อความยาวๆ เช่น
“โอเคครับ เดี๋ยวผมส่งลิงก์ให้จองเวลาคุยกับทีมของเรานะครับ ใช้เวลาแค่ 10 นาทีเองครับ”
ในลิงก์ควรมีฟอร์มให้กรอกข้อมูล เช่น:
- ชื่อธุรกิจ / Instagram
- เว็บไซต์ (ถ้ามี)
- อุตสาหกรรม
- ปัญหาที่กำลังเจอ
ระบบนี้จะช่วยให้คุณ “เตรียมตัวก่อน Call” ได้ดี และลดเวลาวุ่นวาย
ขั้นที่ 4 ปิดดีลด้วย Sales Call และส่งค่าคอมให้ Setter
Lead จะถูกจองเข้ามาในปฏิทิน เราก็แค่เข้า Call และปิดการขายแบบที่เราถนัด เช่น ทำ Mockup หรือเสนอแพ็กเกจให้ดู
เมื่อปิดงานแล้ว ส่งค่าคอมให้ Setter ตามที่ตกลง เช่น 10% หรือ 15%
Samurai Tips: อย่าจ่ายล่วงหน้า จ่ายเมื่อได้ยอดจริงเท่านั้น เพื่อความมั่นใจทั้ง 2 ฝ่าย
มุมมองของ Samurai Agency ทำไมระบบนี้เวิร์กจริง
เราเชื่อว่า การสร้างระบบที่ทำงานแทนเรา = การทำธุรกิจที่ยั่งยืน
Leverage Strategy ช่วยให้เราไม่ต้องวิ่งหา Leads ทุกวัน ไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาแพงๆ และที่สำคัญคือ มัน “ขยายได้”
พอคุณมีคอนเทนต์มากขึ้น คนก็จะรู้จักคุณมากขึ้น พอคุณมี Setter มากขึ้น Leads ก็เข้ามามากขึ้น แต่คุณยังทำงานเท่าเดิม แค่บริหารและปิดดีลเท่านั้น
นี่คือ “พลังของการใช้ Leverage” ที่เอเจนซีหลายแห่งยังมองข้าม
สรุปส่งท้าย
เลิกเสียเวลาไล่ DM หาคนแปลกหน้า แล้วหันมาใช้ Leverage Strategy สร้างระบบให้คนอื่นหา Leads ให้เราแทน
มันไม่ใช่วิธีลัด แต่มันคือวิธีที่ “ยั่งยืน” และ “ขยายได้” สำหรับคนที่อยากโตแบบมืออาชีพในวงการเว็บดีไซน์
ลองเริ่มจาก 1 อย่างที่คุณได้อ่านจากบทความนี้ แล้วอีก 30 วันคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลงแบบที่ไม่ต้องจ่ายสักบาทให้ Meta หรือ Google เลย
- เริ่มต้นเอเจนซีทำเว็บไซต์ในปี 2025 ยังทันอยู่ไหม ในยุคที่ AI ทำเว็บแทนคนได้ภายในไม่กี่วินาที - เมษายน 5, 2025
- เริ่มต้นทำธุรกิจ Web Design ในปี 2025 แบบมือเปล่า แล้วทำรายได้จริงได้ยังไง - เมษายน 5, 2025
- เปลี่ยนสกิลทำเว็บให้กลายเป็นธุรกิจสร้างรายได้จากฟรีแลนซ์มือใหม่ สู่เจ้าของเอเจนซีที่มีรายได้เป็นแสนต่อเดือน - เมษายน 5, 2025